เงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในเดือนเมษายน แตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี ซึ่งน่าจะทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต้องชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมออกไป
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายปี เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนเมษายน เทียบกับ 2.6% ในเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าระดับเป้าหมายระยะกลางของธนาคารกลางอังกฤษที่ 2.0% อย่างมาก
อัตราเงินเฟ้อรายเดือนเพิ่มขึ้น 1.2% ซึ่งถือเป็นการกระโดดขึ้นอย่างมากจาก 0.3% ในเดือนมีนาคม
นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ว่า CPI รายปีจะอยู่ที่ 3.3% และรายเดือนที่ 1.1%
CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารที่ผันผวน เพิ่มขึ้น 1.4% ในระดับรายเดือน และในระดับรายปีอยู่ที่ 3.8% เพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในเดือนก่อนหน้า
การเพิ่มขึ้นอย่างมากของเงินเฟ้อในครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัยที่มารวมกัน ซึ่งมีแนวโน้มจะผลักดันราคาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นราคาค่าไฟและค่าน้ำ การปรับเพิ่มภาษีรถยนต์ และการขึ้นภาษีท้องถิ่น (council tax)
“ที่สำคัญ การปรับเพิ่มภาษีเงินเดือน และการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่มีผลตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เป็นข้ออ้างที่ดีให้หลายบริษัทปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ” โรเบิร์ต วูด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pantheon ประจำสหราชอาณาจักร กล่าว
ธนาคารกลางอังกฤษเพิ่งปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 4.25% ในการประชุมต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร Huw Pill ได้ออกมาเตือนว่าการลดดอกเบี้ยนั้น “อาจเร็วเกินไป” เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเงินเฟ้อ
Pill เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่โหวตคัดค้านการลดดอกเบี้ยในครั้งล่าสุด แต่เสียงของเขาน้อยกว่าคณะกรรมการคนอื่น
สำหรับแนวโน้มข้างหน้า ธนาคารดอยช์แบงก์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะผันผวนต่อไปอีก 2 ไตรมาสก่อนจะเริ่มชะลอลง
พวกเขาคาดว่า CPI รายปีจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 3.4% ตลอดทั้งปี และอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 3.65% ในเดือนกันยายน
สำหรับ Core CPI คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 3.6% ตลอดช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า CPI ในภาคบริการจะค่อย ๆ ชะลอลง เหลือประมาณ 4.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025
นักวิเคราะห์ของดอยช์แบงก์คาดว่า CPI เฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 3.3%, ปีหน้าที่ 2.4% และลดลงเหลือ 2% ภายในปี 2027
Leave a Comment