หุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น; ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งกว่า 500 จุด

หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในวันศุกร์ หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่ออิหร่าน ส่งผลให้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์พุ่งสูง ราคาน้ำมันทะยานขึ้น และเพิ่มความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

เวลา 09:35 น. ตามเวลานิวยอร์ก (13:35 GMT) ดัชนี Dow Jones Industrial Average ร่วง 520 จุด หรือ 1.2% ดัชนี S&P 500 ลดลง 40 จุด หรือ 0.7% และดัชนี NASDAQ Composite ดิ่งลง 155 จุด หรือ 0.8%

ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดยนักลงทุนคาดหวังว่านโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่เข้มงวดอย่างที่คิด

ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์พุ่ง หลังอิสราเอลโจมตีอิหร่าน

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดถูกกระทบอย่างหนักหลังอิสราเอลโจมตีทางทหารใส่อิหร่าน โดยมีเป้าหมายทางการทหารและโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ “หลายสิบแห่ง” ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดต่อสาธารณรัฐอิสลามนับตั้งแต่สงครามอิหร่าน-อิรักในยุค 1980

การโจมตีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ และอิหร่านจะเข้าร่วมการเจรจารอบที่ 6 ของข้อตกลงนิวเคลียร์

ทรัมป์เรียกร้องให้อิหร่านยอมรับข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่หลังเหตุโจมตี โดยเตือนว่าการโจมตีในอนาคตที่ “วางแผนไว้แล้ว” อาจ “รุนแรงยิ่งกว่าเดิม”

เขาโพสต์ข้อความใน Truth Social ระบุว่า เตหะรานต้องพร้อมเจรจา “ก่อนที่จะสายเกินไป”

“ไม่มีการตาย ไม่มีการทำลายล้างอีกแล้ว แค่ทำมันซะ ก่อนจะสายเกินไป” — ทรัมป์กล่าว พร้อมย้ำว่าเขาเคยเตือนเจ้าหน้าที่อิหร่านอย่าง “เข้มข้นที่สุด”

ก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวเคยเตือนว่าอาจใช้มาตรการทางทหารหากการเจรจาล้มเหลว โดยมีกำหนดเส้นตายสำคัญในวันพฤหัสบดี

อิหร่านโต้ตอบด้วยการส่งโดรนกว่า 100 ลำเข้าสู่น่านฟ้าอิสราเอล ตามคำกล่าวของโฆษกกองทัพอิสราเอล ส่งผลให้มีการประกาศเตือนภัยและภาวะฉุกเฉินทั่วอิสราเอล จากความกังวลว่าจะเกิดการตอบโต้ทางอากาศและขีปนาวุธจากเตหะราน

แนวโน้มของความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง — ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำมันที่สำคัญของโลก — ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่แน่นอนมากขึ้น ขณะที่ยังคงกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าโลกที่อาจกระทบการเติบโตเศรษฐกิจ

รอลุ้นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกน

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันศุกร์ไม่มีข้อมูลสำคัญมากนัก ยกเว้นเพียงดัชนีเบื้องต้นของความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมิถุนายนจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤษภาคมออกมาต่ำกว่าคาด เนื่องจากราคาบริการ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ปรับตัวลดลง สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่เมื่อวันก่อน ซึ่งแสดงว่ายังไม่เห็นผลกระทบเต็มที่จากนโยบายภาษีของทรัมป์

ทรัมป์ยังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าอาจขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ในเร็ว ๆ นี้ สร้างความวิตกใหม่ในเรื่องการค้า เพียงหนึ่งวันหลังจากที่เขายืนยันว่า “ข้อตกลงการค้ากับจีนเสร็จสมบูรณ์แล้ว”

เขายังระบุว่าจะส่งจดหมายถึงประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ภายในสองสัปดาห์ เพื่อแจ้งแผนเก็บภาษี ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม

อัปเดตหุ้นรายตัว: น้ำมันขึ้น, หุ้นสายการบินร่วง

ในภาคธุรกิจ หุ้นบริษัทน้ำมัน Chevron (CVX) และ Exxon Mobil (XOM) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม จากความกังวลว่าความขัดแย้งอาจกระทบเส้นทางขนส่งหรือตัวโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย

หุ้นสายการบินอย่าง Delta (DAL), United Airlines (UAL), Southwest (LUV) และ American Airlines (AAL) ร่วงแรง จากความกังวลเรื่องต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศอย่าง Lockheed Martin (LMT), RTX Corp (RTX), Northrop Grumman (NOC) และ L3Harris Technologies (LHX) ปรับตัวขึ้นจากความตึงเครียดทางทหารที่สูงขึ้น

ด้าน Adobe (ADBE) หุ้นร่วงลงเล็กน้อยแม้จะปรับเพิ่มประมาณการรายได้ประจำปี ส่วน Apple (AAPL) ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังยอดขาย iPhone ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในจีนในเดือนพฤษภาคม โดยยอดขายทั่วโลกในเดือนเมษายนและพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นช่วงสองเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ยุคโควิด

ราคาน้ำมันทะยานจากเหตุโจมตี

ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นในวันศุกร์ หลังจากอิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่อิหร่าน โดยมีเป้าหมายทางทหารและโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์หลายแห่ง ตามรายงานของสื่อ

เวลา 09:35 ET ราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้น 7.1% แตะ $74.31 ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบสหรัฐฯ WTI เพิ่มขึ้น 7.6% แตะ $73.22 ต่อบาร์เรล

การเคลื่อนไหวในวันศุกร์ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงภายในวัน (intraday move) ที่มากที่สุดของทั้งสองสัญญานับตั้งแต่ปี 2022 เมื่อรัสเซียบุกยูเครน โดยนักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งอาจกระทบเส้นทางขนส่งน้ำมันหรือโครงสร้างพื้นฐานในอ่าวเปอร์เซีย