BofA มองว่าแนวโน้มดอลลาร์สหรัฐ (USD) จะอ่อนค่าลงต่อไป และยังคงมีมุมมองบวกต่อค่าเงินปอนด์อังกฤษเมื่อเทียบกับดอลลาร์ (GBP/USD)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแรงดีดกลับในช่วงสั้นจากข่าวบวกเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ/จีนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นนักลงทุนทั่วโลกก็กลับมาขายทำกำไรอย่างรวดเร็ว โดยระดับแนวรับของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (50-day SMA) ยังคงประคองค่าเงิน G10 ส่วนใหญ่ไว้ได้เมื่อเทียบกับดอลลาร์

แรงกดดันฝั่งขาลงของดอลลาร์เริ่มผ่อนคลายลงบ้างหลังจากการขายออกอย่างหนักในสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาตลาดสหรัฐเปิดทำการ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเชิงบวกตามฤดูกาลในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในเอเชียยังคงเป็นกลุ่มที่ขายดอลลาร์อย่างหนักที่สุด

สำหรับคู่เงิน GBP/USD นั้น กำลังแสดงสัญญาณเชิงบวกจากกระแสของออปชัน และจากแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน โดยตัวชี้วัด “1-month GBPUSD risk reversal” ได้ทำจุดสูงสุดในรอบ 5 ปีใหม่อีกครั้ง

แนวโน้มขาขึ้นในตลาดสปอตยังได้รับการสนับสนุนจากความผันผวนทั้งขาขึ้น/ขาลง และ skew ที่ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่เสี่ยงต่อการกลับตัวลง (ระดับที่จะเริ่มพลิกแนวโน้มอยู่ที่ราวๆ 1.31) นักวิเคราะห์ของ BofA คาดว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไปได้ถึงระดับ 1.3760 ซึ่งตรงกับการคาดการณ์ในไตรมาส 2 ของปี 2025

ในฝั่งของค่าเงินยุโรป โดยเฉพาะยูโร (EUR) ก็เริ่มต้นสัปดาห์ได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากข่าวการถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่าง USD/CHF กับราคาทองคำยังคงสูงมาก โดยมีค่าสหสัมพันธ์ตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -95%

ความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับสถานะเครดิตของสหรัฐอาจหนุนราคาทองคำและเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส (USD/CHF) ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินกลับไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 0.82 อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของ BofA ระบุว่า ความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อมุมมองเชิงลบของพวกเขาต่อดอลลาร์ คือ หากสหรัฐฯ ประกาศภาษีตอบโต้ในระดับที่ไม่รุนแรง ซึ่งข่าวล่าสุดจากข้อตกลงการค้าสหรัฐ/จีนระบุว่า การผ่อนคลายความตึงเครียดด้านภาษี อาจทำให้ดอลลาร์มีแรงดีดตัวขึ้นในระยะสั้นได้เช่นกัน.