Demand Supply [EP.1]

กลยุทธ์การเทรด Demand Supply แบบมืออาชีพ

การเทรดในตลาดการเงินมีความซับซ้อนและต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกลไกที่ขับเคลื่อนราคา หนึ่งในแนวคิดพื้นฐานแต่ทรงพลังที่สุดคือ Demand Supply Zones (D&S Zones) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ฟิวเจอร์ส หรือคริปโตเคอร์เรนซี การทำความเข้าใจและประยุกต์ใช้ D&S Zones อย่างมืออาชีพสามารถช่วยให้นักเทรดระบุโอกาสในการเข้าและออกจากการเทรดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความเข้าใจ Demand Supply Zone

นิยามและหลักการพื้นฐาน

Demand Supply Zones (D&S Zones) คือพื้นที่บนกราฟราคาที่คาดการณ์ว่าจะเกิดกิจกรรมการซื้อหรือขายจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ แนวคิดนี้อิงตามหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานที่ว่าราคาของสินทรัพย์ทางการเงินถูกขับเคลื่อนด้วยความสมดุลระหว่างผู้ขาย (อุปทาน) และผู้ซื้อ (อุปสงค์) เมื่ออุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน ราคามักจะสูงขึ้น และเมื่ออุปทานมีมากกว่าอุปสงค์ ราคามักจะลดลง

Demand Zone (โซนอุปสงค์): พื้นที่บนกราฟที่อุปสงค์แข็งแกร่งกว่าอุปทาน ทำให้ราคาผลักดันขึ้น โซนนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่ราคาคาดว่าจะดีดตัวขึ้นเมื่อลงมาทดสอบ

Supply Zone (โซนอุปทาน): พื้นที่บนกราฟที่แรงขายแข็งแกร่งกว่าแรงซื้อ ทำให้ราคาปรับตัวลดลง โซนนี้ทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่ราคาคาดว่าจะถูกกดลงเมื่อขึ้นไปทดสอบ

D&S Zones มีความหลากหลายและสามารถใช้ได้ในตลาดที่แตกต่างกัน รวมถึงหุ้น ฟิวเจอร์ส และคริปโตเคอร์เรนซี

ความแตกต่างจากแนวรับแนวต้านแบบดั้งเดิม

แม้ D&S Zones จะคล้ายคลึงกับแนวรับแนวต้าน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ D&S Zones ไม่ใช่แค่จุดราคาเดียว แต่เป็น “พื้นที่” หรือ “โซน” ที่กว้างกว่า แนวรับแนวต้านแบบดั้งเดิมมักจะอยู่ที่จุดกลับตัวของราคา (price turning points) ในขณะที่ D&S Zones มักจะอยู่ที่ “ต้นกำเนิด” ของการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและมีโมเมนตัมสูง

D&S Zones สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ชัดเจนกว่า ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของ “Smart Money” ความเข้าใจในความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการยกระดับกลยุทธ์ของตนเองให้เหนือกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบพื้นฐาน

ตารางเปรียบเทียบ Demand Supply Zone กับแนวรับแนวต้าน

คุณสมบัติDemand Supply Zoneแนวรับแนวต้าน (Support & Resistance)
นิยามพื้นที่ที่เกิดแรงซื้อ/ขายมหาศาลจากสถาบัน ระดับราคาที่เคยมีการกลับตัวหรือชะลอตัวในอดีต 
ลักษณะเป็น “โซน” หรือ “พื้นที่” ที่กว้างกว่า มักเป็น “ระดับ” หรือ “จุดราคา” ที่เฉพาะเจาะจง 
การก่อตัวเกิดจากต้นกำเนิดของการเคลื่อนไหวราคาที่รุนแรง เกิดจากจุดกลับตัวของราคาในอดีต 
ความแม่นยำสะท้อนกิจกรรมของ Smart Money, มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าในการทำนายการกลับตัวหรือต่อเนื่องของเทรนด์ อาจเป็นจุดทางจิตวิทยา, ความน่าเชื่อถืออาจลดลงเมื่อมีการทดสอบซ้ำหลายครั้ง 
การใช้งานใช้สำหรับการเข้าเทรดแบบแม่นยำ, การจัดการความเสี่ยง ใช้ระบุโซนที่ราคาอาจชะลอตัวหรือกลับตัว 

บทบาทของ Smart Money และสถาบัน

Demand Supply Zones มักเกิดจากการกระทำของ “Smart Money” หรือสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่เข้าซื้อหรือขายในปริมาณมาก ซึ่งการกระทำเหล่านี้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ สถาบันเหล่านี้ซื้อในช่วง “Accumulation” (สะสม) ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาอยู่ในกรอบแคบหลังจากเทรนด์ขาลงยาวนาน สร้าง Demand Zone และขายในช่วง “Distribution” (กระจาย) ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาอยู่ในกรอบแคบหลังจากเทรนด์ขาขึ้นยาวนาน สร้าง Supply Zone

ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเผยให้เห็นว่า Demand Supply Zones เป็นเสมือน “รอยเท้า” ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เมื่อราคากลับมายังโซนเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดปฏิกิริยา (การกลับตัวหรือต่อเนื่องของเทรนด์) เนื่องจากคำสั่งซื้อขายของสถาบันเหล่านั้นอาจยังคงมีอยู่ หรือสถาบันอาจกลับเข้าสู่ตำแหน่งเพื่อป้องกันการเข้าซื้อขายเริ่มต้น หรือทำกำไรเพิ่มเติม สิ่งนี้ทำให้ D&S Zones มีพลังในการคาดการณ์ที่แข็งแกร่งและเป็นพื้นฐานมากกว่าแนวรับแนวต้านแบบดั้งเดิม ซึ่งมักจะอิงกับการจดจำราคาทางจิตวิทยาเท่านั้น การทราบ “เหตุผล” เบื้องหลังการก่อตัวของโซน (เจตนาของสถาบัน) จึงมีความสำคัญไม่แพ้ “ตำแหน่ง” ของราคา สำหรับนักเทรดรายย่อยมืออาชีพ การทำความเข้าใจพื้นฐานของสถาบันนี้ช่วยให้สามารถ “ขี่กระแส” ไปพร้อมกับผู้เล่นรายใหญ่ โดยปรับการเทรดให้สอดคล้องกับการไหลของ Smart Money สิ่งนี้ยกระดับการเทรดจากการจดจำรูปแบบธรรมดาไปสู่ความเข้าใจที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับกลไกตลาดและการไหลของคำสั่งซื้อขาย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจอีกประการหนึ่งคือ D&S Zones มีลักษณะเป็นพลวัต ไม่เหมือนระดับแนวรับแนวต้านที่คงที่ โซนเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากสภาวะตลาดปัจจุบันและการไหลของคำสั่งซื้อขาย นอกจากนี้ แหล่งข้อมูลหลายแห่งยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของโซนที่ “สดใหม่” (fresh zones) ลักษณะที่เป็นพลวัตนี้บ่งชี้ว่าความเกี่ยวข้องและความแข็งแกร่งของโซนไม่ได้คงที่ แต่พัฒนาไปตามกาลเวลา โซนที่ “เก่า” หรือ “ถูกทดสอบ” (visited multiple times) มักจะอ่อนแอลง เนื่องจากคำสั่งซื้อขายของสถาบันที่ยังไม่ถูกเติมเต็มซึ่งเป็นต้นกำเนิดของความแข็งแกร่งอาจถูกเติมเต็มไปแล้ว หรือความเชื่อมั่นของตลาดที่สนับสนุนโซนนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป การเชื่อถือโซนในอดีตโดยไม่พิจารณาสภาพแวดล้อมปัจจุบันหรือความ “สดใหม่” ของโซนนั้นเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ดังนั้น นักเทรดมืออาชีพจึงต้องใช้แนวทางการวิเคราะห์ที่ปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงการเฝ้าติดตามและปรับโซนที่ระบุอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการการเคลื่อนไหวของราคาปัจจุบัน การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย และแม้แต่ปัจจัยพื้นฐาน (ข่าวสาร, รายงานเศรษฐกิจ) เพื่อให้แน่ใจว่าโซนเหล่านั้นยังคงมีความเกี่ยวข้องและมีศักยภาพ สิ่งนี้เน้นย้ำถึงการสังเกตตลาดแบบเรียลไทม์และการปรับตัว มากกว่าการใช้รูปแบบทางประวัติศาสตร์ตามกฎที่ตายตัว

AI-LazyBear

- นักเขียนมือใหม่

Post navigation

Leave a Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *