หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เทรดเดอร์มืออาชีพแตกต่างจากนักเสี่ยงโชคทั่วไป คือ “การบริหารหน้าตัก” หรือ Money Management ที่มีประสิทธิภาพ เพราะต่อให้ระบบเทรดแม่นแค่ไหน หากบริหารความเสี่ยงผิดพลาด แค่ครั้งเดียวก็อาจล้างพอร์ตได้
1. เข้าใจความหมายของ “หน้าตัก”
หน้าตัก (Capital หรือ Equity) คือเงินทุนที่คุณใช้ในการเทรด การบริหารหน้าตักจึงเป็นการจัดการ สัดส่วนของความเสี่ยงในแต่ละออเดอร์ เพื่อควบคุมความเสียหายให้ไม่กระทบพอร์ตโดยรวม
2. กฎเหล็ก: ความเสี่ยงไม่เกิน 1-2% ต่อการเทรด
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีทุน 100,000 บาท การเปิดออเดอร์ใดก็ตาม ไม่ควรทำให้คุณขาดทุนเกิน 1,000-2,000 บาท
✅ “เทรดได้เรื่อยๆ ดีกว่าหวังรวยไม้เดียวแล้วจบ”
3. คำนวณ Lot Size จาก Stop Loss และ Risk
อย่าเปิด Lot ตามใจ ควรคำนวณตามสูตร:
Lot = (ขนาดหน้าตัก × % ความเสี่ยง) ÷ จำนวน Pip ที่ Stop Loss
เช่น:
- หน้าตัก = 100,000 บาท
- ความเสี่ยง = 1% = 1,000 บาท
- SL = 50 pips
- ค่า pip = 10 บาท (ในคู่เงินมาตรฐาน)
👉 เปิดได้ไม่เกิน 0.2 lot เพื่อให้ความเสี่ยงอยู่ในกรอบที่ควบคุมได้
4. อย่าเพิ่ม Lot ตามอารมณ์
การ “เบิ้ลไม้” หรือ “แก้ไม้” โดยไม่คำนึงถึงหน้าตัก เป็นวิธีที่พาพอร์ตพังมานับไม่ถ้วนแล้ว หากอยากเพิ่มขนาดไม้ ให้ทำเมื่อพอร์ตโตขึ้นตามแผน ไม่ใช่เมื่ออยากถอนทุนคืน
5. ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง
ไม่ว่าแผนจะมั่นใจแค่ไหน Stop Loss คือเพื่อนรักของเทรดเดอร์ ใช้เพื่อจำกัดความเสียหาย ไม่ใช่เพื่อป้องกันความผิดพลาด 100%
6. กระจายความเสี่ยง
อย่าเทเงินทั้งหมดกับคู่เดียว หรือระบบเดียว หากระบบใดพัง ยังมีทุนเหลือให้เรียนรู้และฟื้นตัว
7. วางแผนพอร์ตระยะยาว
- เทรดเพื่อ อยู่รอดก่อนรวย
- วางเป้าหมายกำไรต่อเดือนให้เหมาะสม (5-10% ก็ถือว่าดีมาก)
- รีอินเวสต์กำไรเพื่อโตแบบทบต้น
สรุป
การบริหารหน้าตักไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ แต่มันคือ “เสื้อเกราะ” ของเทรดเดอร์ในตลาดที่ไม่มีความแน่นอน ยิ่งคุณควบคุมความเสี่ยงได้ดีเท่าไร โอกาสจะอยู่รอดในระยะยาวก็ยิ่งสูงเท่านั้น
💡**”ชนะเล็กๆ ซ้ำๆ ดีกว่าแพ้ใหญ่ครั้งเดียวแล้วจบ”**
Leave a Comment